ด้านหน้า
ศุภมัสดุ พระพุทธศาสนายุกาลล่วงแล้วได้ราว ๒๔๖๒ เจ้าหลวงบุญวาทย์วงศ์มานิตย์ ได้สร้างอุโบสถหลังนี้ขึ้นโดยฝีมือช่างจากคุ้มหลวง มีนายปวน สุวรรณสิงห์เป็นผู้เขียนภายฝาผนัง เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่ช้างพังของพระองค์ได้ตกลูกเป็นช้างพลายเผือก ณ บ้านทุ่งฝาย แขวงเมืองนครลำปาง จากนั้นเจ้าหลวงได้นำช้างเผือกขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๙ พระองค์ทรงสมโภชขึ้นระว่างพระราชทานนามอันเป็นมงคลว่า พระเศวตอุดมจารณ์ ฯลฯ วิบูลย์ลักษณเลิศฟ้า ต่อมาวัดแห่งนี้จึงมีนามว่า วัดช้างเผือก ดังคำจารึกเก่าที่ติดอยู่บนกรอบประตูอุโบสถด้านใน กล่าวถึงการสร้างอุโบสถหลังนี้ว่า เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิตย์ เจ้าผู้ครองนครลำปาง พร้อมด้วยนโอรสและนัดดา มีพระไทยเลื่อมไสยในพระพุทธศาสนา ได้ทรงบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์ ทรงสร้างพระอารามและพระอุโบสถวัดช้างเผือกไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อให้พระสงฆ์จากจาตุรทิศ ได้อาศรัยแลลงอุโบสถสังฆกรรม ขอพุทธภูมิในอนคตกานเบื้องหน้าโน้นเทอญ สำเร็จลงเมื่อ วันที่ ๑๒ มีนาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๔ ตรงกับวันอาทิตย์ เดือน ๖ เหนือ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีระกา จุลศักราช ๑๒๘๓