ประเพณีตานหลัวหิงไฟพระเจ้า
เดือน : เดือน 4 เหนือ
ชื่อเรียกอื่นๆ : -
เอกสารแนบ : ดาวน์โหลด
โดย : สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
คำอธิบายประเพณี
ประเพณีตานหลัวหิงไฟพระเจ้า คือการนำเอาฟืนมาเผา เพื่อให้พระพุทธเจ้า หรือพระพุทธรูปได้ผิงไฟ จัดขึ้นในวันเดือนสี่เป็ง หรือวันเพ็ญเดือนสี่เหนือ อยู่ในช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงมกราคม เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ชาวล้านนามีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าหรือพระพุทธรูปในวิหารก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นเช่นเดียวกับคนเรา จึงร่วมกันหาไม้ฟืนมาจุดเผาไฟผิงให้เกิดความอบอุ่น ประเพณีนี้เป็นประเพณีที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับบริบททางสภาพแวดล้อม เนื่องจากในดินแดนล้านนาเป็นพื้นที่ๆ มีความหนาวเย็นมาก รวมทั้งมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และมีความชื้นสูง การผิงไฟนอกจากจะให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายแล้ว ยังขับไล่ความชื้นในอากาศที่เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย
หลัว หรือฟืน ที่ชาวล้านนานิยมนั้น มักเลือกเอาไม้ที่มีสีขาวให้ถ่านดี ทนทาน ไม่แตกเวลาก่อไฟ และหาได้ง่ายในท้องถิ่น ไม้ที่นิยมเอามาทำเป็นฟืนสำหรับผิงพระพุทธเจ้านั้น ได้แก่ 1.ไม้คนทา หรือไม้ชิงชี่ เป็นไม้ลักษณะเป็นเถาและเนื้อในสีขาว ขึ้นในป่าบริเวณป่าละเมาะใกล้เชิงเขา 2.ไม้โมกมัน หรือมูกมัน เป็นไม้ยืนต้น เนื้ออ่อน สีขาว 3.ไม้โชค หรือสะคร้อ เป็นไม้ยืนต้นผลกินได้ เป็นไม้ในสีขาว ให้ถ่านดีมาก ชาวบ้านนิยมนำมาเผาถ่าน 4.ไม้มะขาม เป็นไม้ยืนต้นข้างในสีขาว นิยมรานกิ่งลงมาเหลือแต่ต้นไว้ เพื่อให้ออกกิ่งใหม่ เป็นไม้เนื้อในสีขาวโดยจะตัดไม้ลงมากองไว้ในลานกว้าง ถากเอาเปลือกไม้ออกทุกส่วนแล้วตัดเป็นท่อนให้ได้ขนาดยาว 1 วา และไม้ขนาดเล็กยาว 1 ศอก นับไม้เท่าพระชนม์ของพระพุทธเจ้า 80 ดุ้น ตากให้แห้งแล้วผูกไว้เป็นมัดๆ ตามขนาด จากนั้นช่วยกันแบกหามเข้าสู่วัดนำมาไว้ที่ลานวัด หรือที่ล้านนาเรียกว่า “ข่วงแก้วทังสาม” “ข่วงแก้วอาราม” แล้วจัดการสุมกองหลัว คือ ทำเป็นซุ้มสองกองไว้ด้านหน้าวิหารโดยให้ตรงกลับองค์พระพุทธรูป เอาไม้ขนาดเล็กสุมข้างใน เอาไม้ขนาดใหญ่สุมข้างนอก เรียงกันเป็นวงกลม ขนาด 1 วา มีการใส่ “หมากสะโพก” ไม้ประทัด หรือไม้ระเบิด สอดเข้าไปด้วย สะโพกหรือไม้ระเบิดนี้ใช้ไม้ไผ่ซาง หรือไม้บงตัดปิดหัวท้ายเป็นท่อน อาจเป็น 2 ท่อนบ้าง 3 ท่อนบ้าง ใส่สะโพกประมาณ 4-5 ชุด เตรียมไว้สำหรับเผาต่อไป
การเผาบูชาเวลาประมาณตีสี่ตีห้า สมภารหรือเจ้าอาวาส จะเป็นผู้จุดก่อกองไฟหลัวหิงไฟพระเจ้าขึ้นเป็นคนแรกพร้อมกับให้ตีฆ้อง 3 รา เพื่อประกาศแก่ประชาชนที่อยู่ตามบ้านเรือนให้ได้ยินเสียงและร่วอนุโมทนา ด้วย หลังจากการก่อกองไฟหลัวหิงไฟพระเจ้าไปสักพัก เมื่อไฟติดลุกโพลงขึ้นจะเผาลนไม้ไผ่ที่ตัดซุกไว้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดัง ตูมตาม จะเป็นเครื่องเตือนให้ประชาชนผู้หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาหุงต้ม นึ่งข้าวนึ่งปลา เตรียมอาหารมาวัด กินกันทุกครัวเรือน