ประเพณีตั้งธรรมหลวง

เดือน : เดือนยี่ เหนือ


ชื่อเรียกอื่นๆ : เทศน์มหาชาติ


เอกสารแนบ : ดาวน์โหลด


โดย : สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง


คำอธิบายประเพณี

ตั้งธรรมหลวง หรือ เทศนม์หาชาติ เป็นประเพณีการฟังเทศน์ 13 กัณฑ์ ภายในหนึ่งวัน เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระเวสสันดรอันเป็นพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ ก่อนที่จะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและออกบวชจนตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวล้านนาจะจัดงานเทศน์มหาชาติ ใช้เวลา 2 วัน วันแรกจะเทศน์คาถาพัน มาลัยเก๊า มาลัยปลาย และอานิสงส์เวสสันดร และวันรุ่งขึ้นเริ่มเทศน์กัณฑ์แรกเริ่มตั้งแต่ กัณฑ์ทศพร หิมพานต์ ทานขัน วนประเวสน์ ชูชก จุล พล มหาพล กุมาร มัทรี สักบรรณ มหาราช ฉะกษัตริย์ และกัณฑ์สุดท้าย คือ นครกัณฑ์ การฟังเทศน์ครบทั้ง 13 กัณฑ์ ภายในวันเดียว ชาวล้านนาเชื่อว่าจะมีอานิสงค์ได้ไปเกิดในยุคของพระศรีอริยะเมตรไตร ในพิธีกรรมการฟังเทศน์มีกิจกรรมที่หลากหลาย

การจัดเตรียมสถานที่ได้นำสัญลักษณ์ต่างๆ มาประกอบในพิธีกรรมที่สื่อให้เห็นถึงแนวคิดและภูมิปัญญา ยังบ่งบอกถึงองค์ความรู้ที่มีอยู่ในท้องถิ่นประกอบกับเนื้อหาของการเทศน์ เช่น จัดทำซุ้มประตูป่า อันเป็นสัญลักษณ์ของทางเข้าสู่เขาวงกตที่อยู่เชิงป่าหิมพาน การสร้างบรรยากาศในวิหารให้เป็นป่าหิมพานที่มีผลไม้ พืชผัก ต้นกล้วย ต้นอ้อย การสร้างสระดอกบัว อันเป็นสัญลักษณ์ ของการซ้อนตัวของ กันหา ชาลี นำดอกไม้มาประกอบในไม้ไผ่สาน ที่เรียกว่า ดอกไม้ พันดวง มักจะใช้ดอกปีบหรือดอกก๋าสะลอง เพื่อบูชาคาถาพัน การประดิษฐ์กระดาษฉลุรูปช้างรูปม้า อันเป็นสัญลักษณ์ของทรัพย์สมบัติและของคู่บารมีในความเป็นพระมหากษัตริย์การบูชา ผางประทีป พันดวง การบูชาดวงไฟตามพระคาถาของแต่ละกัณฑ์ เช่น กัณฑ์ทศพร 19 พระคาถา ซึ่งคาถาทั้งหมดรวมกันทั้ง 13 กัณฑ์ แล้วได้ 1,000 พระคาถา หรือ การถวายข้าวพันก้อน ในพิธียังสร้าง ช่อพัน การใช้สัญลักษณ์รูปกระต่าย อันหมายถึงพระจันทร์ และรูปนกยูง อันหมายถึงพระอาทิตย์ ในคติจักรวาลรวมถึงกิจกรรมในอดีตจัดให้เด็กๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วม เช่น สร้างเขาวงกต หรือที่เรียกว่า เขาหลง เพื่อเข้าไป หา หรือวิ่งซ้อนแอบกัน แต่จะแฝงด้วยคติธรรมไว้ข้างใน บางครั้งอาจจะให้คนแต่งตัวเป็นฤาษี คอยบอกทางออกให้หรือการสร้าง โคมผัด หรือโคมหมุน เป็นโคมไฟที่มีลักษณะพิเศษที่ด้านในฉลุกระดาษเป็นตัวละครเช่นนางมัทรีกัญหา ชาลี หรือชูชก แล้วใช้แรงดันความร้อนจากเปลวเทียนไขทำให้เกิดแรงลมด้านในโคมทำให้หมุนได้ เป็นที่ตื่นตาเของเด็กๆ

ในอดีตการเทศน์ จะไม่สามารถมองเห็นพระเทศน์ได้ เนื่องจากอยู่ในธรรมาสสูงแบบพื้นเมือง จึงได้เขียน รูปภาพเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเวสสันดรในกัณฑ์ต่างๆ ชาวล้านนาจะเรียกว่า ตุงค่าว หรือ ตุงตุจก หรือ ภาพเวสสันตะละ ภาษาภาคกลางเรียกว่า ภาพพระบฎ ไว้ดูในช่วงฟังเทศน์ทำให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหายิ่งขึ้น ซึ่งในภาพดังกล่าวยังสอดแทรกเรื่องราวที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นได้อย่างสวยงาม ในการฟังเทศน์เมื่อพระเริ่มเทศน์แต่ละกัณฑ์จะมีการจุดประทีป หรือปล่อยโคมไฟ จังหวัดลำปางมักจะถวายดวงไฟที่เรียกว่า บอก ไฟดอก เพื่อถวายกัณฑ์เทศน์ บรรยากาศของการฟังเทศน์จะสนุกสนานส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับ ทำนองเสียงของพระนักเทศน์ที่เรียกว่า ระบำ เช่น มะนาวล่องของ แมงภู่ชมดวง ฯลฯ ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะกัณฑ์ชูชก กัณฑ์มัทรี บางพื้นที่การเทศน์แต่ละกัณฑ์ จะสลับกับเสียงดนตรีวงปี่พาทย์ หรือการตีกลองปู่จา เป็นการสร้างบรรยากาศ จนกระทั้งการเทศน์มาถึง นครกัณฑ์ เป็นกัณฑ์สุดท้าย การเฉลิมฉลองการกลับมาของพระเวสสันดร นางมัทรี และสองกุมาร จะมีเสียงโห่ร้อง เสียงดนตรี บ้างก็ลุกขึ้นฟ้อนรำ ในเนื้อเรื่องถึงตอนนี้ ฝนห่า แก้ว ก็จะตก จะมีการโปรยข้าวตอดดอกไม้ทำให้บรรยากาศสนุกสนาน และก็จะแย้งเอา ผลไม้ต่างๆ ที่ตกแต่งเป็นป่าภายในวิหาร ส่วนด้านนอกวิหารก็จะปล่อยโคมไฟ เล่นประทัดอย่างครื้นเครง